แบ่งปันประสบการณ์ หลินจือกับโรคทาลัสซีเมียและไมเกรน
ถ้าเราแข็งแรงแล้วก็ก็สามารถทำมาอาชีพหารายได้มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้แบบ สบายๆอุราไม่ต้องกังวลว่าจะป่วยวันไหน จะหยุดงานไปหาหมอกี่วัน สำหรับตัวผมเองตอนนี้อายุ 42 ปีถือว่าอยู่ในช่วงที่โรคต่างๆกำลังได้เวลามาทักทายโชคดีที่ไม่เป็น ความดันและเบาหวาน รวมทั้งมะเร็งร้ายโรคที่ผู้คนส่วนใหญ่ฮิตติดอันดับได้รับการมาเยือนสู่ร่างกายแต่ก็ใช่ว่าผมจะไม่เป็นอะไรเลย ผมขอแบ่งปันแบบรวดเร็วนะครับ โรคที่ผมเองได้รับการมาเยือนมีดังนี้ครับ
1.ไมเกรน
2.มือเท้าชา
3.ภูมิแพ้อากาศ
4.กระดูกทับเส้นประสาท
แค่4โรคนี้ผมก็ทุกข์ทรมานมา10กว่าปีแล้วเริ่มเป็นมาตั้งแต่ตอนอายุ 30 นิดๆแค่ไมเกรนก็แย่มากแล้วมาเจอ กระดูกทับเส้นประสาทนี่หนักเลยบางวันปวดมากปวดตั้งแต่หลังลงไปถึงขา เดินหรือขยับไม่ได้ต้องนอนอย่างเดียว หาหมอก็เท่านั้นได้ยาคลายกล้ามเนื้อกับแก้อักเสบมาทานครั้งละ3-4ถุงแถม บังคับทานให้หมด แต่ก็โอเคนะครับถ้าได้ยามาทานมันก็ดีขึ้นสามารถไปทำงานได้แต่อย่านั่งนาน หรือเดินบ่อยๆนานนะครับ มันจะเป็นอีก เพื่อนคนไหนที่เป็นจะรู้ว่ามันทรมานมากความปวดมันทำให้บางวันถึงกับร้องไห้ ว่าทำมัยต้องมาเป็นโรคบ้าๆพวกนี้ด้วยนะ เงินก็ยิ่งไม่ค่อยมีถ้าถึงขนาดต้องผ่าตัดคงแย่ไม่มีเงินรักษาหรอกเงินเดือน ก็น้อยนิด จึงทนๆกับความเจ็บปวดเหล่านี้มา10กว่าปี สุดยอดกับชีวิตแต่ก็ทนมาได้
ทานยาจน เริ่มปวดหลัง3-4ปีมานี้เริ่มมีปวดหลังมากขึ้นหมอบอว่าไตคงเริ่มไม่ดี ลดๆทานยาลงบ้างก็จะดี เราก็เพิ่งรู้ว่าที่ปวดหลังเพราะไตทำงานหนักเนื่องจากทานยามากเกินไป เป็นความโชคดีมากที่เมื่อ2ปีที่แล้วได้มารู้จักกับเห็ดหลินจือโดยบังเอิญจาก ผู้แนะนำ จึงตัดสินใจทาน อย่างแรกเลยที่ทานคือชากับกาแฟ แค่ไม่กี่วันเท่านั้นรู้เรื่องเลย ไมเกรนเริ่มไม่แสดงกาการปกติถ้าตอนเย็นๆเครียดๆกับงานไมเกรนจะถามหา แต่ทานกาแฟมาสองสามอาทิตย์นี้ไมเกรนไม่มาเยี่ยมเลย รู้สึกดีใจมาก เลยเริ่มเข้าหาข้อมูลจากกูเกิ้ลว่าไอ้เห็ดหลินจือนี่มันดียังงัย เท่านั้นแหละครับ จัดตัวยาสกัด100%มาทานเลย 1 ชุด ตอนนั้นราคาชุดละ 1,550 บาท
ตอน ที่เห็นในตอนเช้าตื่นมานี่ตกใจมากคิดว่าเอาแล้วงัยเห็ดหลินจือทำพิษแล้วงัย เป็นผื่นทั้งตัวไม่เว้นแม้กระทั่งบนใบหน้าส่องกระจกอาบน้ำนี่ตกใจเลย รีบโทรถามพี่ที่แนะนำให้ทานยาเห็ดหลินจือเลยครับ ได้ความว่านี่เป็นอาการของการขับสารพิษออกจากร่างกายเนื่องจากร่างกายได้รับ สารเคมีจากยาปฏิชีวนะมากเกินไป เห็ดหลินจือช่วยขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกายออกให้ จะเป็นกี่วันแล้วแต่ว่าร่างกายได้รับมากน้อยแค่ไหนเป็นจนกว่าสารพิษจะโดนขับ ออกจนหมดส่วนใหญ่ประมาณ1อาทิตย์ โอเคค่อยน่าฟังใจชื้นขึ้นมานึกว่าต้องเข้าโรงบาลซะแล้ว แต่ก็ต้องอยู่กับผื่นคันเหล่านี้ประมาณ 7 วันคืออาทิตย์สุดท้ายของเดือนนั้นอาการผื่นคันแบบนี้ก็หายไปจริงๆ เออพี่เค้ารู้ได้งัยว่าเราทานยาเยอะยังรู้อีกว่ามันจะหายเป็นปกติ แสดงว่าต้องมีคนเป็นอย่างเราเยอะมากพี่เค้าคงขายมาเยอะจนรู้หมดว่าใครจะมี อาการอะไรบ้างตามโรคที่เป็น หลังจากนั้นผมจึงเริ่มสนใจศึกษาอย่างจริงจังจึงได้รู้ว่าอาการเหล่านี้นี้ ตามตำราแพทย์โบราณเค้าเรียกว่า ปฏิกิริยาสะท้อนหรือ “การวินิจฉัยโรค”ของเห็ดหลินจือนั่นเอง เพื่อนๆลองไปศึกษาดูนะคราับจากกูเกิ้ลหรือสอบถามจากแพทย์แผนโบราณก็ได้ครับ คร่าวๆคือ เห็ดหลินจือจะเข้าไปรักษาและขับสารพิษต่างๆภายในร่างกายของเราช่วงแรกคนที่ ป่วยก็จะมีอาการต่างๆกันสไปเช่น ป่วยเป็นความดัน ช่วงแรกที่ทาน ความดันจะขึ้นสูง หลังจากนั้นจะค่อยๆปรับให้ปกติ คนที่ป่วยเบาหวานช่วงแรกที่ทานเบาหวานจะขึ้นสูงมาก หลังจากนั้นจะค่อยๆลดลง คนที่เป็นเก๊าท์ช่วงแรกจะปวดมากขึ้นแล้วจะค่อยๆดีขึ้น คนที่เส้นเลือดตีบตันอาจจะวิงเวียนศรีษะ มึนงง แต่สักระยะจะดีขึ้นครับ
สำหรับ ผมเอง ณ.ตอนนี้ก็2ปีพอดีกับการทานยาเห็ดหลินจือทานเกือบทุกวัน พยายามทานทุกวันไม่ค่อยลืมบางเดือนผมก็ซื้อชุดใหญ่ถ้ามีเงินพอ ส่วนใหญ่จะเป็นชุดกลาง180เม็ด ราคาไม่แพงมากพอมีตังซื้อ 2 ปีที่ทานมาไม่เคยป่วยเข้าโรงบาลไม่เคยเป็นหวัด และไม่เคยกลับไปซื้อยาที่ร้านยามาทานเลย ช่วงแรกๆวันไหนเจ็บปวดมากก็อัดหลินจือมากหน่อย 3-4 คู่ต่อวัน ตื่นเช้ามาอาการปวดก็หายทำงานได้ปกติ ภูมิแพ้อากาศนี่ตอนนี้หายไปเลยเจอหน้าหนาวหน้าร้อนนี่สบายเลยน้ำมูกไม่มีให้ เห็นเลย ตอนอาบน้ำนี่ปกติน้ำมูกจะมาเป็นยวง ทุกวันนี้สบายไม่มีน้ำมูกมาให้รำคาญ ไมเกรนไม่ต้องพูดถึงหายเป็นปลิดที้ง มือเท้าชาไม่มาเยี่ยมเยียน ปวดตามสะโพกตามขานี่ไม่มีเลยปกติถ้านั่งพิมพ์นานๆแบบนี้ตอนลุกถึงกับล้ม ททั้งยืนก็มี ทุกวันนี้สบายเดินทั้งวันยังไม่มีอาการเลยเรียกว่าสุดยอดมากๆชีวิตช่วงนี้มี ความสุขกับร่างกายและสุขภาพที่ดีขึ้นมากๆครับ จะบอกว่าเหมือนเป็นยาวิเศษเลยก็ได้สำหรับผมโชคดีจริงๆที่ได้มารู้จักกับหลิน จือ รู้สึกขอบคุณพี่ๆที่ได้แนะนำให้ทานครับ /// 2 ปีที่ทานมาหาเงินจากไหนมาซื้อ จริงๆก็ไม่ค่อยมีตังค์นะแต่ก็พยายามทานด้วยบอกต่อเพื่อนๆ คนใกล้ชิดด้วยเท่าที่นับดูก็หลักร้อยคนที่ผมได้บอกต่อและทุกคนที่ทานก็ได้ รับสุขภาพที่ดีมากๆกลับไปนั่นล่ะครับคือรายได้ที่ผมได้จากค่าคอมมิชชั่นที่ บริษัทจ่ายให้ทุกเดือนตลอด2ปีที่ทานมา แต่ก็ไม่มากมายนะครับเพราะผมแนะนำคนไม่มาก แค่ร้อยกว่าคนเอง พี่ที่ผมโพสรูปด้านบนก็เป็นอีก1คนที่ผมแนะนำให้ทานและเริ่มทำการเก็บบันทึก ภาพความเปลี่ยนแปลงไว้เป็นระยะๆเพราะคิดว่าผมต้องได้ใช้รูปเหล่านี้ในการนำ มาอ้างอิงให้กับเพื่อนใหม่ๆในอนาคต แล้วก็ได้ใช้จริงๆครับ
ลืมให้ดูว่าพี่เค้าก็มีอาการเหมือนกับผมละครับแต่เป็นเยอะกว่าผม เพราะทานยาหมอมาเยอะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น